Banner Godaddy

$4.29 .Com with Free Private Registration at GoDaddy.com!

30 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้



ท่องเที่ยวไทยชียงใหม่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระราชดำริจัดตั้งบริเวณป่าขุนแม่ กวง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 8,500 ไร่ ให้เป็นศูนย์การศึกษาทดลอง วิจัย เพื่อหารูปแบบการพัฒนาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่ภาคเหนือ และเผยแพร่แก่ราษฎรให้สามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยตนเองต่อไป โดยศึกษาพัฒนาป่าไม้ 3 อย่าง 3 วิธี เพื่อประโยชน์ 4 อย่างคือ มีไม้ใช้สอย ไม้ผล ไม้เชื้อเพลิง ซึ่งจะอำนวยประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ ตลอดจนความชุ่มชื้นเอาไว้เป็นประโยชน์อย่างที่ 4 และพื้นที่ต้นน้ำลำธารให้ได้ผลอย่างสมบูรณ์เป็นหลัก โดยต้นทางเป็นการศึกษาสภาพพื้นที่ป่าไม้ต้นน้ำลำธาร และปลายทางเป็นการศึกษาด้านการประมงตามอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ผสมกับการศึกษาด้านการเกษตรกรรม ปศุสัตว์และโคนม รวมทั้งเกษตรอุตสาหกรรม เพื่อให้เป็นศูนย์ที่สมบูรณ์แบบ ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อราษฎรที่จะเข้ามาศึกษากิจกรรมต่างๆ ภายในศูนย์ฯ และนำไปใช้ปฏิบัติอย่างได้ผลต่อไป ดังพระราชดำริว่า "ให้ศูนย์ศึกษาพัฒนาฯ ทำหน้าที่เสมือนพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่มีชีวิต"


ผู้ที่สนใจเข้าชมได้ทุกวัน ระหว่างเวลา 8.30-16.30 น. หากต้องการวิทยากรนำชมติดต่อล่วงหน้าที่ โทร. 0 5338 9228-9 และผู้ที่ต้องการใช้บ้านพักรับรอง หรือกางเต็นท์พักแรมต้องนำอุปกรณ์มาเองโดยติดต่อขออนุญาตล่วงหน้า เว็บไซต์ศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยฮ่องไคร้
การ เดินทาง ใช้เส้นทางเชียงใหม่-เชียงราย ประมาณ 23 กิโลเมตร และเลี้ยวขวาเข้าศูนย์อีกประมาณ 1 กิโลเมตร

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ ถ้ำเชียงดาว


อยู่ในเขตอำเภอเชียงดาว การเดินทาง จากเชียงใหม่ไปยังอำเภอเชียงดาว ระยะทาง 72 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายตรงทางแยกเข้าไปจนถึงถ้ำอีก 5 กิโลเมตร เป็นถนนลาดยางจนถึงบริเวณถ้ำ มีบริเวณจอดรถกว้างขวาง ทางเข้าถ้ำเป็นบันไดมีหลังคามุงสังกะสี หน้าถ้ำมีธารน้ำไหลผ่านเต็มไปด้วยปลาหลายชนิด นักท่องเที่ยวสามารถให้อาหารปลาได้ หากต้องการชมบริเวณถ้ำ ติดต่อคนนำทางได้บริเวณหน้าถ้ำ

29 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ โป่งเดือดป่าแป๋

ตำบลป่าแป๋ อำเภอแม่แตง ห่างจากเชียงใหม่ประมาณ 40 กิโลเมตร เป็นน้ำร้อนที่พุ่งขึ้นมาจากพื้นดินในอดีตน้ำพุแห่งนี้สูงถึง 5 เมตร ปัจจุบันสูงเพียง 1 เมตร รอบ ๆ บริเวณซึ่งเป็นป่าทึบจะอบอวลไปด้วยกลิ่นกำมะถัน บริเวณโดยรอบสะอาด และจัดนิทรรศการได้น่าสนใจ
น้ำพุเกิดจากปริมาณน้ำใต้ดินที่ส่วนใหญ่ได้จากน้ำฝนที่ซับสู่ใต้ดิน หากดินมีความพรุนมาก ความพรุนของดินนี้เกิดจากต้นไม้ น้ำพุร้อนที่นี่คาดว่ามีการเกิดแบบน้ำพุร้อนกีเซอร์ (Geyser type) ลักษณะของน้ำพุ่งขึ้นจากระดับผิวดินเป็นครั้งคราวตลอดเวลา และคุณสมบัติของน้ำพุร้อนอย่างหนึ่งคือ ช่วยรักษาโรคปวดตามข้อ
การเดินทาง ใช้ถนนสายแม่มาลัย-ปาย ไปประมาณ 35 กิโลเมตร ประมาณกิโลเมตรที่ 42 แล้วเลี้ยวขวาเข้าไปอีกประมาณ 6.5 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สามารถใช้บริการรถโดยสารประจำทางสีส้ม สายเชียงใหม่-ปาย ซึ่งจะวิ่งผ่านปากทางเข้า จากลานจอดรถจะต้องเดินทางไปประมาณ 500 เมตร

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ วัดสวนดอก หรือวัดบุปผาราม

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ วัดสวนดอก หรือวัดบุปผาราม

ตั้งอยู่ที่ถนนสุเทพ ในเขตอำเภอเมือง พญากือนาทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1914 (ศักราชนี้ถือตามหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ของพระรัตนปัญญาเกตุ) เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของพระมหาเถระสุมน ผู้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ในล้านนา วัดนี้แต่เดิมเป็นพระราชอุทยานของกษัตริย์ล้านนาไทยสมัยแรกเริ่ม มีสถาปัตยกรรมสำคัญ คือ เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงกลม กู่บรรจุอัฐิเจ้าตระกูล ณ เชียงใหม่ และวิหารโถง นอกจากนี้ ยังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าเก้าตื้อ ซึ่งพญาเมืองแก้วโปรดให้หล่อขึ้น เป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนาผสมกับศิลปะสุโขทัย น่าไปนะครับ

28 มิถุนายน 2553

เชียงใหม่ การแสดงช้าง


เริ่มต้นด้วยการอาบน้ำให้ช้างในลำห้วยชะล้างสิ่งสกปรกออก และเพื่อให้ช้างสนุกสนานเพลิดเพลินในการที่ได้ลงไปแช่ในน้ำ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้ว ควาญจะนำช้างไปใส่เครื่องลากจูงไว้บนหลัง เพื่อลากซุงซึ่งอยู่ในป่ามาแสดงให้ชมด้วยวิธีการต่างๆ โดยจัดแสดงทุกวันในช่วงเช้า เวลาประมาณ 09.40 - 10.30 น. นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมขี่ช้างและล่องแพตามความต้องการของนักท่องเที่ยว
สายเชียงใหม่-ฝาง (ทางหลวง 107) มีสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถชมการแสดงช้างและขี่ช้าง ดังนี้
- ท่าแพแม่ตะมาน จากเชียงใหม่มาตามทางหลวง 107ประมาณ 43 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายเข้ามาประมาณ 7 กิโลเมตร โทร. 0 5329 7060
- ปางช้างแม่แตง เข้าทางเดียวกับท่าแพแม่ตะมานจากปากทางเข้ามา 9 กิโลเมตร ตรงข้ามวัดแม่ตะมาน โทร. 0 5384 4818

- ศูนย์ฝึกช้างเชียงดาว ประมาณกิโลเมตรที่ 56 หากมาจากเชียงใหม่จะอยู่ทางขวามือ เป็นศูนย์ที่รับฝึกลูกช้างเพื่อใช้งานชักลากไม้จริง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมด้วยโดยคิดค่าข้าชมผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 30 บาท ชมได้วันละ 2 รอบ คือ 09.00 น. และ 10.00 น. ทุกวัน รายละเอียดติดต่อ โทร. 0 5329 8553, 0 5386 2037

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ ดอยอ่างขาง

ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ ดอยอ่างขาง ตั้งอยู่ที่ตำบลอ่างขาง อำเภอฝาง ห่างจากเขตแดนไทยพม่าเพียง 5 กิโลเมตร การเดินทางไปตามทางหลวงหมายเลข 107 สายเชียงใหม่-ฝาง ประมาณกิโลเมตรที่ 137 จะมีทางแยกซ้ายมือเข้าบ้านยางที่ตลาดแม่ข่า เข้าไปอีกประมาณ 25 กิโลเมตร เป็นทางลาดยาง สูงและคดเคี้ยว ต้องใช้รถสภาพดีและมีกำลังสูง คนขับชำนาญ หรือจะหาเช่ารถสองแถวได้ที่ตลาดแม่ข่า
อ่างขาง เป็นภาษาเหนือ หมายถึง อ่างสี่เหลี่ยม ซึ่งได้ชื่อมาจากลักษณะพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ล้อมรอบด้วยภูเขาสูง อยู่สูงจากระดับน้ำทะเล 1,400 เมตร ทำให้อากาศบนดอยหนาวเย็นตลอดปีโดยเฉพาะในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคม อากาศเย็นจนน้ำค้างกลายเป็นน้ำค้างแข็ง นักท่องเที่ยวจึงควรเตรียมเครื่องกันหนาวมาให้พร้อม เช่น หมวก ถุงมือ ถุงเท้า เสื้อกันหนาว

27 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทย ไปเชียงใหม่ วัดต้นแกว๋น (วัดอินทราวาส)

ตั้งอยู่ที่บ้านต้นแกว๋น ต.หนองควาย อ.หางดงเป็นวัดเก่าแก่ที่มีลักษณะงดงามมาก สิ่งที่น่าสนใจ คือศาลาจัตุรมุขซึ่งพบเพียงหลังเดียวในภาคเหนือ นอกจากนี้ ศิลปกรรมล้านนาดั้งเดิมภายในวัดนี้ยังจัดว่าเป็นต้นแบบที่สมบูรณ์และมีคุณ ค่ามาก สมาคมสถาปนิกสยามประกาศให้เป็นอาคารอนุรักษ์ดีเด่นเมื่อปี พ.ศ. 2532
การ เดินทาง ใช้ทางหลวงสายหางดง-สะเมิง เมื่อเข้าเขตบ้านต้นแกว๋น ให้สังเกตทางเข้าวัดทางด้านซ้ายมือ ประมาณ กิโลเมตรที่ 37 เข้าไปประมาณ 70 เมตร หากเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางมีรถสองแถวสาย เชียงใหม่-หางดงลงบริเวณทางเข้าแยกสะเมิง แล้วต่อรถสายบ่อหลวงเข้าไป

25 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทย มหัศจรรย์ล้านนา เมืองกระดาษสาบ้านต้นเปา

ตำบลต้นเปา” นับเป็นอีกชุมชนหนึ่งที่มีความโดดเด่นในด้านการผลิตสินค้าหัตกรรมกระดาษสา ด้วยภูมิปัญญาดั้งเดิมของท้องถิ่นที่สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ หลายชั่วอายุคนกว่า 100 ปี ประกอบกับฝีมือช่างอันประณีตวิจิตร ทำให้ศิลปหัตถกรรมกระดาษสาต้นเปาแบบล้านนาได้รับการยอมรับจากนานาประเทศที ชื่อเสียงทั้งในเรื่องของคุณภาพกระดาษ และลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ โดยกว่าร้อยละ 90 ของกระดาษสาที่จำหน่ายในประเทศ และต่างประเทศล้วนมาจากแหล่งผลิตที่หมู่บ้านต้นเปาแห่งนี้เอง

ภายในงานประกอบด้วย การจัดนิทรรศการกระดาษสา พิพิธภัณฑ์กระดาษสา การสาธิตการผลิตกระดาษสา การประกวดผลิตภัณฑ์จากกระดาษสา การประกวดโคมลอยกระดาษสา การประกวดหน้าบ้านหน้ามอง การประกวดเทพีกระดาษสา การประกวดแม่เฮือนงาม การแสดงศิลปวัฒนธรรมพื้นเมือง การประกวดกลองสะบัดชัย การจำหน่ายผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมกระดาษสาในราคาย่อมเยา และกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย

นายเฉลิมศักดิ์ สุรนันท์ ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในห้วงเวลาดังกล่าวจังหวัดเชียงใหม่มีเทศกาลสำคัญ ๆ แห่งมหัศจรรย์ของเมืองเชียงใหม่หลายงานด้วยกัน อาทิ มหกรรมไม้ดอกไม้ประดับจังหวัดเชียงใหม่ มหกรรมผ้าซิ่นตีนจกแม่แจ่ม มหกรรมไม้แกะสลักบ้านถวาย เป็นต้น ซึ่งหากนักท่องเที่ยวท่านใดเดินทางมาในช่วงนั้นจะได้พบกับเทศกาลสำคัญ ๆ ของเมืองเชียงใหม่หลายงานด้วยกันนับว่าเดินทางครั้งเดียวเที่ยวได้คุ้มค่า จึงขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวทุกท่านมาร่วมสืบสานมรดกทางวัฒนธรรม และภูมิปัญญาแห่งงานหัตถศิลป์ถิ่นล้านนา และร่วมกันอนุรักษ์รักษามรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าเหล่านี้เอาไว้ให้อยู่สืบ ไปถึงลูกหลาน


ที่มา : ททท.

ท่องเที่ยวไทย เทศกาลตรุษจีนเมืองเชียงใหม่

วันที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2553

วัน ที่ 14-15 กุมภาพันธ์ 2553

สถานที่ ถนนวิชยานนท์ (ย่านตรอกเล่าโจ้ว) ย่านตลาดวโรรส

กิจกรรม
ขบวนแห่ตรุษตีนเมืองเชียงใหม่ การแสดงบนเวที การแสดงนิทรรศการความสัมพันธ์ไทย-จีน การประกวดตี๋-หมวย สวย-เก่ง การประกวด Miss China Town การออกร้านจำหน่ายอาหารจีนและเครื่องดื่ม การแสดงนาฎศิลป์จีน กายกรรม และมวยกังฟู

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายท่องเที่ยวเทศบาลนครเชียงใหม่ โทร. 0 5325 9365, 0 5325 2557

ที่มา : ททท.




ท่องเที่ยวไทย เชียงใหม่ ทอยไรด์

วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553
เวลา 09.45 น. ณ เทสโก้โลตัส สาขาตลาดคำเที่ยง อำเภอเมือง และลานกิจกรรมเอ็กซ์เซ็นเตอร์ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

Chiang Mai's Toy Ride... The Motorbikes Caravan Charity for the Less Fortunate Children

พบกับขบวนพาเหรดมอเตอร์ไซด์จากทั่วโลก ทั้งอังกฤษ แคนาดา ออสเตรเลีย เยอรมัน อเมริกา และประเทศไทย ซึ่งมารวมตัวกันทำกิจกรรมการกุศล นำของเล่น ตลอดจนทุนการศึกษา เสื้อกันหนาว อุปกรณ์กีฬา เวชภัณฑ์ ฯลฯ ไปมอบให้แก่เด็กๆ ผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร ในวัอาทิตย์ที่ 21 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา 09.45 น. ณ เทสโก้ โลตัส สาขาตลาดคำเที่ยง โดยขบวนคาราวานพร้อมด้วยของเล่นคันละ 1 ชิ้น จะเคลื่อนขบวนผ่านรอบคูเมือเชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่ลานกิจกรรมเอ๊กซ์เซ็นเตอร์ อำเภอแม่ริม กิจกรรมนี้ไม่จำกัดประเภทของรถมอเตอร์ไซด์ จะเป็นชนิดใดก็ได้

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณริชชี่ โทร. 08 1030 8307 หรือ www.chiangmaitoyride.com

มหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ (ชนเผ่า) อำเภอเชียงดาว อำเภอ เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ (ชนเผ่า) อำเภอเชียงดาว

อำเภอ เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ จัดงานมหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ (ชนเผ่า) อำเภอเชียงดาว ครั้งที่ 1 ปลายเดือนกุมภาพันธ์ 2553 มีกิจกรรมมากมายของชนเผ่าและการแสดงที่พิเศษจากประเทศญี่ปุ่น
นายสุพจน์ หอมชื่น นายอำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ กล่าวถึงการจัดงานมหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ (ชนเผ่า) อำเภอเชียงดาว ว่า เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเผยแพร่วัฒนธรรมที่ดีงามของชนเผ่าให้เป็นที่ รู้จักแพร่หลาย กระจายรายได้จากเมืองสู่ชนบท อีกทั้งทำให้เกิดความร่วมมือและการสื่อสารระหว่างชนเผ่าและทางราชการมากขึ้น ภายในงานมีกิจกรรมและการแสดงของชนเผ่ามากมาย เช่น นิทรรศการชาติพันธุ์ (ชนเผ่า) นิทรรศการโครงการหลวง พิธีไหว้เทพแห่งการเพาะปลูก การเดินขบวนชนเผ่า การแสดงพิเศษชุด เอซ่า จากประเทศญี่ปุ่น พร้อมการนำชมโรงงานทอผ้าและยอมผ้าแบบธรรมชาติ สาธิตโดยชาวปกาเกอญอและชาวญี่ปุ่น โดยการจัดงานครั้งนี้มีชาวญี่ปุ่นตอบรับเข้าร่วมงานประมาณ 700 คน
นายอำเภอเชียงดาว กล่าวด้วยว่า เชียงดาวเป็นอำเภอที่เก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ มีประชากรร้อยละ 70 ที่เป็นชนเผ่า มากที่สุดในประเทศไทย โดยงานมหกรรมวัฒนธรรมชาติพันธุ์ (ชนเผ่า) อำเภอเชียงดาว ครั้งที่ 1 มีกำหนดจัดระหว่างวันที่ 27- 28 กุมภาพันธ์ 2553 ณ ค่ายเยาวชนอนุรักษ์ดอยหลวง บ้านยางปูโต๊ะ อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และจะจัดเป็นพิธีสืบต่อไปเป็นประจำทุกปี



ข้อมูล ข่าวและที่มา

ผู้สื่อข่าว : เชียงใหม่(สวท.) Rewriter : ธนวัต วงศ์วิริยะวณิช
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

24 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทย ไปเกาะช้าง




หมู่เกาะช้าง ประกอบด้วย เกาะใหญ่น้อยอยู่ทางฝั่งทะเลอ่าวไทยกว่า 40 เกาะ วางเรียงตัวเรียงรายเป็นรูปยาวร คู่ขนานไปกับชายฝั่งทะเลจังหวัดตราด เช่น เกาะช้างน้อย เกาะคลุ้ม เกาะหวาย เกาะเหลายา เกาะไม้ซี้ เกาะรัง และมีเกาะช้างเป็นเกาะที่ขนาดใหญ่ที่สุด (ขนาดใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศไทยรองจากเกาะภูเก็ตและเกาะสมุย) อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแหลมงอบ จังหวัดตราด ห่างประมาณ 8 กิโลเมตร ยาวจากเหนือลงมาทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 30 กิโลเมตร กว้างประมาณ 14 กิโลเมตร ได้รับการจัดตั้งเป็นอุทยานแห่งชาติ ตามประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 99 ตอนที่ 197 ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2525 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 45 ของประเทศไทย ครอบคลุมพื้นที่ในท้องที่ตำบลเกาะช้าง กิ่งอำเภอเกาะช้าง และตำบลเกาะหมาก กิ่งอำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด พื้นที่ประมาณ 650 ตารางกิโลเมตร หรือ 406,250 ไร่ ทิศเหนือ จดทะเล ท้องที่ ต.บางปิด ต.คลองใหญ่ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ทิศใต้ จดทะเล ท้องที่ ต.เกาะหมาก กิ่งอำเภอเกาะกูด จ.ตราด ทิศตะวันออก จดทะเล ท้องที่ ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ จ.ตราด ทิศตะวันตก จดทะเล ท้องที่ ต.เกาะช้าง กิ่งอำเภอเกาะช้าง จ.ตราด

ท่องเที่ยวไทย ไปเสม็ด






เดินทางไป เกาะเสม็ด ระยอง
เกาะเสม็ด เชื่อกันว่าคือเกาะแก้วพิสดาร ในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี ของสุนทรภู่ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อของระยอง ที่ได้รับความนิยมทั้งจากชาวไทย และชาวต่างประเทศ ตั้งอยู่ตำบลเพ อำเภอเมือง อยู่ห่างจากชายฝั่งบ้านเพประมาณ 6.5 กิโลเมตร มีเนื้อที่ประมาณ 3,125 ไร่. เกาะเสม็ด มีลักษณะเป็นเกาะรูปสามเหลี่ยม ส่วนฐานของเกาะอยู่ด้านทิศเหนือ ซึ่งหันเข้าสู่ฝั่งบ้านเพ มีภูเขาสลับซับซ้อนกันอยู่ 2-3 ลูก มีที่ราบอยู่ตามริมฝั่งชายหาด ส่วนใหญ่จะอยู่ทางด้านเหนือ และตะวันออก เหตุที่มีชื่อว่า "เกาะเสม็ด" เพราะเกาะนี้มีต้นเสม็ดขาว และเสม็ดแดงขึ้นอยู่มาก.

การเดินทาง เกาะเสม็ด
รถยนต์ สามารถใช้เส้นทางได้หลายเส้นทาง ได้แก่
เส้นทางแรก ทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) จากกรุงเทพฯ ผ่านอำเภอบางปู อำเภอบางปะกง จังหวัดชลบุรี บางแสน ศรีราชา พัทยา หาดจอมเทียน สัตหีบ อำเภอบ้างฉาง ไปจนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 2 ทางหลวงหมายเลข 34 (ถนนบางนา-ตราด) เริ่มจากตรงจุดสิ้นสุดทางด่วนด่านเฉลิมนคร อำเภอบางนา ผ่านอำเภอบางพลี อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ และเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 3 ที่กิโลเมตรที่ 70 อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา หลังจากนั้นก็จะผ่านเส้นทางเดียวกันกับเส้นทางที่ 1 รวมระยะทางประมาณ 220 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 3 ทางหลวงหมายเลข 36 (บายพาส 36) จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางเดียวกับเส้นทางที่ 2 จนถึงกิโลเมตรที่ 140 อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เส้นทางหลวงหมายเลข 36 จากนั้นให้เดินทางต่อไปยังจังหวัดระยองด้วยระยะทาง 70 กิโลเมตร รวมระยะทางประมาณ 210 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 4 ทางหลวงหมายเลข 344 (ถนนสายบ้านบึง-แกลง) เริ่มจากจังหวัดชลบุรี ผ่านอำเภอบ้านบึง หนองใหญ่ อำเภอวังจันทร์ และสิ้นสุดที่อำเภอแกลง เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร (กรุงเทพฯ-ชลบุรี 80 กิโลเมตร) เส้นทางเส้นนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางไปยังแหล่งที่องเที่ยวในเขตอำเภอแกลง หรือเดินทางไปยังจังหวัดจันทบุรี หรือจังหวัดตราด และหากต้องการที่จะเดินทางเข้าสู่อำเภอเมือง จังหวัดระยอง ให้ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 3 โดยย้อนกลับมาอีกประมาณ 42 กิโลเมตร

เส้นทางที่ 5 ทางหลวงหมายเลข 7 (สายมอเตอร์เวย์) เริ่มจากถนนพัฒนาการ เขตประเวศ กรุงเทพฯ ไปสิ้นสุดที่ จังหวัดชลบุรี ระยะทาง 75 กิโลเมตร จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 เป็นระยะทาง 100 กิโลเมตร จนถึงอำเภอเมือง จังหวัดระยอง รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 175 กิโลเมตร

รถโดยสารประจำทาง จาก สถานีขนส่งสายตะวันออก ( เอกมัย) มีรถประจำทางไปยังตัวจังหวัดระยอง และอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดหลายเส้นทาง ได้แก่
สายกรุงเทพฯ - ระยอง, บ้านเพ, แกลง, แหลมแม่พิมพ์, มาบตาพุด, ประแสร์ เป็นต้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
โทร. 0 2391 2504
สถานีเดินรถโดยสาร จังหวัดระยอง
โทร. 0 3861 137 9
และมีบริษัทเดินรถเอกชนที่วิ่งบริการ เส้นทางสายด่วน มอเตอร์เวย์ ได้แก่ บริษัท ระยอง ทัวร์
โทร. 0 2712 3662
สาขาระยอง โทร. 0 38 86 1 354-5
จาก สถานีขนส่งหมอชิต ถนนกำแพงเพชร 2 มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถ ธรรมดา และรถปรับอากาศชั้น 2 หมอชิต- ระยอง ออกทุก 1 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 04.30-16.30 น.
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5 ชั่วโมง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2936 2841
ส่วนรถปรับอากาศสายด่วน วิ่งเส้นบางนา-ตราด ออกตั้งแต่เวลา 04.30-21.00 น. ใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ระยองทัวร์ กรุงเทพฯ โทร. 0 2 936 1216 สาขาระยอง โทร. 0 3886 1354-5

23 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทยไปหมู่เกาะสุรินทร์


ท่องเที่ยวไทยไปหมู่เกาะสุรินทร์

: การ เตรียมตัว

1.เตรียมเสื้อผ้าสบายๆ แห้งง่าย หรือมีผ้าคลุมบังแดดด้วยก็ดีครับเวลาโดนแดด ส่องด้านข้างเรือจะได้ไม่ร้อน เเต่เรือหางยาวมีหลังคาอย่างดีครับ ชุดว่ายน้ำสำหรับทั้งชายและหญิง ใส่ไว้ข้างใน หรือชุดที่เราใส่ดำน้ำแล้วเรารู้สึกสบายตัวคล่องตัวที่สุด เพื่อให้สะดวกในการดำน้ำ และตากแห้งง่ายเพื่อใช้ใน Trip ต่อไปได้ เสื้อที่ใช้ดำน้ำควรจะเป็นแขนยาวจะดีมากครับ

*** กระเป๋า ที่ใช้ในการเดินทาง สำหรับทริปนี้ แนะนำว่าควรเป็น กระเป๋า แบบเป้ หรือแบบที่สะพายได้ นะครับ เพราะว่าจะสะดวกในการขนย้ายมากกว่า อีกอย่างอาจมีบางช่วง ( โดยเฉพาะบริเวณจุด 200 เมตร บนเกาะ) ที่เราต้องเดินเท้าไปพร้อมกับกระเป๋าเพื่อเข้าที่พัก หากเป็นกระเป๋าล้อลากจะไม่สะดวก เพราะว่าพื้นที่เดินนั้นจะไม่ใช่พื้นเรียบ อาจทำให้กระเป๋าใบเก๋ของเราชำรุดได้นะครับ แนะนำว่าควรเป็นแบบเป้จะดีที่สุดครับ

2.ครีมกันแดด SPF 50 ขึ้นไป เพราะลอยตัวในน้ำนานคนที่ดำง่ายต้องเตรียมไปให้พอ (การทาครีมกันแดดนั้นห้ามทาบริเวณดวงตา ให้เว้นเอาไว้เพราะหากโดนน้ำทะเลจะทำให้เราแสบตาและจะทำให้ดำน้ำไม่สนุกครับ และหลังจากทาด้านหน้าเรียบร้อยแล้ว จุดที่เราควรจะต้องทาเป็นพิเศษคือ หลังคอ หลังหู หลังแขน หลังขา เพราะจุดต่างๆ เหล่านี้เป็นจุดที่จะต้องโดนแดดมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเวลาเราดำน้ำส่วนต่างๆ เหล่านี้จะต้องโดนแดดเต็มๆ ครับ )

3.รองเท้าแตะ หูหนีบ หรือรองเท้ารัดส้นพวก Kito , Adda ก็ได้ครับ

4.หมวกกันแดด แว่นตากันแดด

5.สน๊อคเกิ้ล ใครที่มีก็สามารถนำไปเองได้ครับ จะได้พอดีกับหน้าเราและรู้ใจเรา แต่ทางเพื่อนท่องเที่ยวก็จะเตรียมไว้ให้อยู่แล้วครับเป็นขนาดมาตรฐานครับ สามารถปรับระดับได้ครับ

6.หมอน+ผ้าห่ม +เบาะรองนอน เรามีให้ครับ

7.ถุงกันน้ำสำหรับป้องกันอุปกรณ์ของมีค่าต่างๆ ของเรา

8.ถุงสำหรับใส่ผ้าเปียกที่เราใช้แล้ว

9.เชือกฟาง ติดตัวไปสัก 3-4 เมตร สำหรับทำราวตากผ้าครับ
จุดที่เราจะลงเรือกันครับ ท่าเรือคุระบุรี จ.พังงา
10.กระเป๋าเดินทาง แนะนำว่าควรเป็น แบบเป้ ครับ เพราะจะสะดวกในการขนย้ายขึ้นลงเรือครับ และพวกถุงขนมต่างๆ ที่เราซื้อไปรับประทานที่เกาะ หากเป็นไปได้ควรแพคใส่ในกระเป๋า หรือว่าผูกมัดติดกับกระเป๋าของเราไว้ เพื่อเป็นการป้องการไม่ให้ของเราพลัดหลงไปกับของคณะอื่นครับ

11.บนเกาะมีร็อคเกอร์ให้เช่าเก็บของมีค่าครับ ( ค่าบริการ 30 บาท *** แต่ว่าล๊อกเกอร์จะมีประมาณ 12 ช่องเท่านั้นเองนะครับ ส่วนใหญ่จะไม่เพียงพอกับนักท่องเที่ยว ทางที่ดีไม่ควรนำของมีค่าติดตัวไปเที่ยวเกินความจำเป็นครับ )

12.สำหรับคนที่รักการอ่านพกหนังสือไปอ่านเล่นขณะนั่งเรือไปเกาะก็ได้นะครับ ใช้เวลาในการเดินทางโดยเรือประมาณ 2.30 - 3 ชม. ครับ ( หากท่านใดชอบเมาเรือ ก่อนการเดินทางรบกวนช่วยแจ้งให้ทีมงานไกด์ทราบด้วยนะครับ จะได้ให้ทานยาแก้เมากันไว้ก่อนครับ)

13.ไฟฉาย สำหรับเข้าห้องน้ำ หรือเดินเล่นตอนกลางคืน ประมาณหลัง 22.30 น. ไฟฟ้าบนเกาะจะดับครับ ( ยกเว้นช่วงเทศกาลหรือคนเยอะๆ อุทยานอาจจะขยายเวลาปิดไฟออกไปจนถึงประมาณ 01.00 น. )

14.เตรียมแป้งเย็น ทาตัวสำหรับคนขี้ร้อน เช่น แป้งเย็นตรางูช่วยได้เยอะทีเดียวครับ จะเป็นพัดเล็กๆ สักอัน หรือพัดลมใส่ถ่านเล็กๆ ก็จะเยี่ยมเลยครับ บนเกาะอากาศช่วงหัวค่ำในเต้นท์ค่อนข้างร้อนนิดนึง แต่ดึกๆ ก็จะเริ่มเย็นบ้างครับ

15.เสื่อ ที่พับได้เอาไว้ปูนั่งเล่น ยามค่ำคืนหน้าชายหาดลมเย็นดีครับ ดึกๆ ค่อยเข้าไปนอนในเต้นท์ ( อุทยานมีผ้าใบให้เช่าเหมือนกันครับ ผืนละ 20 บาท แต่มีปริมาณไม่มากนะครับ )

16.ขนมคบเคี้ยวทานเล่น ที่เราชอบ แต่ร้านค้าบนเกาะก็มีขายนะครับ แต่ราคาอาจจะแพงกว่านิดหน่อยเนื่องจากอยู่ไกลฝั่ง ยกตัวอย่างนะครับ แอลกอฮอล์ที่เป็นป๋องๆ หน่ะ 35-50 บาท น้ำอัดลมกระป๋องละ 20 บาท จะเตรียมไปเองหรือจะไปซื้อที่เกาะตามสะดวกได้เลยครับ ส่วน น้ำแข็งบนเกาะมีขายครับ แต่เอาแน่เอานอนไม่ได้นะครับ บางวันก็มีบางวันก็หมดเพราะต้องรอเรือเสบียงมาส่งครับ แนะนำว่าเป็นแบบ On The Rock มะนาวบางๆ เกลือนิดหน่อยท่าจะดีกว่าครับ) อ้อ! บนเกาะยังมีของที่ระลึกจำพวกพวก โปสการ์ด ฯ รวมถึงเสื้อของอุทยานขายด้วยนะครับ ราคาประมาณ 180-200 บาท ( ที่หมู่บ้านมอแกนที่เราจะไปเที่ยวกันก็มีของที่ระลึกที่ชาวมอแกนทำเพื่อ จำหน่ายแก่นักท่องเที่ยวด้วยเช่นกันครับ )
** ขนมทุกอย่างที่เรานำไปรับประทานที่เกาะ หากแกะซองแล้วควรรับประทานให้หมด เนื่องจากขนมที่เปิดซองทิ้งไว้อาจนำเหล่าบรรดามด มาสู่เต้นท์นอนของเราได้ครับ จึงควรผูกมัดเก็บให้มิดชิดครับ

17.กล้องถ่ายรูปพร้อมแบตสำรอง ซึ่งบนเกาะก็ยังสามารถ charge แบตได้ครับแต่ต้องไปยืนเฝ้ากันเองน๊า (จะ charge ได้ก็ต่อเมื่อหลัง 5-6 โมงเย็นไปแล้วครับไฟฟ้าถึงจะเริ่มปั่น) ถามเจ้าหน้าที่้ทุกคนได้ว่าจุดไหนสามารถ charge แบตได้บ้างครับ ส่วนใหญ่จุดเสียบจะอยู่บริเวณโรงอาหารครับ อ้อ!! ให้ดีควรเตรียมเต้าเสียบเล็กๆ (สำหรับเพิ่มช่อง) ติดไปด้วยสักอัน เพราะว่าหากคนเยอะ ปลั๊กสำหรับเสียบอาจมีไม่เพียงพอครับ

18.ล่าสุด! บนเกาะีสัญญานโทรศัพท์ระบบ GSM และ DTAC สามารถใช้งานไ้ด้แล้วครับ ส่วนสัญญาณระบบ True move ยังใช้ไม่ได้ครับ อ้อ! แต่ก็ยังมีีโทรศัพท์ระบบดาวเทียมเอาไว้ให้โทรได้นะครับ โดยใช้บัตรพินโฟน (บนเกาะมีบัตรพินโฟนขาย แต่ก็เอาแน่นอนไม่ได้ว่าจะหมดหรือเปล่านะครับ หากจำเป็นต้องโทรจริงๆ เตรียมไปจะสะดวกกว่านะครับ)

19.สำหรับคอกีฬาฟุตบอล ปกติแล้วทางอุทยานจะมีสัญญาณ UBC ถ่ายทอดให้ชมกันครับ ( แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อาจไม่แน่เสมอไปว่า ณ เวลาที่เราเดินทางไปนั้น ทางอุทยานจะยังคงมีสัญญาณ UBC หรือเปล่านะครับ )

20.ยาสำหรับโรคประจำตัวของแต่ละคน ( ห้ามลืม! นะครับ เพราะว่าเราอยู่เกาะที่ห่างไกลจากชายฝั่งมาก หากเกิดอะไรฉุกเฉินขึ้นจะไม่สะดวกครับ ) เพราะฉะนั้นเราควรเตรียมสุขภาพร่างกายให้เเข็งแรงจะได้ไม่ป่วยเวลาเที่ยว ครับ

21. กระแสไฟฟ้าบนเกาะจะเริ่มปั่นเวลา 18.00 ถึงประมาณ 22.30 น. ใครที่ต้องการจะ Chart แบตเตอรี่มือถือ หรือว่ากล้องถ่ายรูปสามารถนำไป Chart ได้บริเวณร้านค้าสวัสดิการของทางอุทยาน แต่ว่าจะต้องเฝ้าสมบัติของแต่ละคนกันเองนะครับ ปลั๊กสำหรับเสียบค่อนข้างมีจำนวนน้อยต้องรอคิวกันครับ หรือท่านใดจะติดปลั๊กแยกสำหรับเพิ่มช่องเสียบเล็กๆ ไปสักอันนึงก็ได้นะครับ จะได้ไม่ต้องรอคิวกันครับ

22.กฏระเบียบการรับประทานอาหารเช้าของอุทยาน อาหารเช้าปกติบนเกาะจะเิ่ริ่มที่เวลา 07.30 น. และอาหารเย็นจะเริ่มที่ 18.30 น. ครับ และเมื่อรับประทานเสร็จแล้ว ทางอุทยานจะมีจุดสำหรับเก็บภาชนะ จาน ชาม ที่เราทานเสร็จเรียบร้อย ขอความร่วมมือให้นักท่องเที่ยวทุกคนช่วยกันนำภาชนะจานชามที่ทานเสร็จแล้ว ไปวางยังจุดที่ทางอุทยานจัดไว้ให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ
**** ยกเว้น! ช่วงวันจักกรี 2-6 เม.ย. 53 และช่วงวันสงกานต์ 12-16 เม.ย. 53 ทริ ปของ เพื่อนท่องเที่ยวจะทานอาหารบนเรือ ( บุพเฟ่ ) ทุกมื้อครับ เนื่องจากหลีกเลี่ยงปริมาณนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลซึ่งมีค่อนข้างเยอะ และที่นั่งรับประทานอาหารของอุทยานมีไม่เพียงพอครับ

23.ทุกครั้งที่ออกไปดำน้ำ รบกวนให้นักท่องเที่ยวปิดประตูหน้าต่างเต้นท์ให้เรียบร้อย เนื่องจากบนเกาะสุรินทร์ฝนอาจตกได้ทุกเวลาครับ เพื่อเป็นการป้องการไม่ให้ฝนสาดเข้าไปในเต้นท์ เพราะฉะนั้นเราปิดไว้ก่อนดีกว่าครับ

25.ส่วนใหญ่การเดินทางท่องเที่ยวของสมาชิกทุกคนจะเป็นลักษณะการมาจอยกรุ๊ป กัน ต่างคน ต่างมา เพราะฉะนั้นตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืน ที่เราลงเรือลำเดียวกัน ได้ใช้ชีวิตร่วมกันบนเกาะ ขอเพียงให้นักท่องเที่ยวทุกท่าน "เปิด ใจ" เพื่อนใหม่ก็อยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี่เองครับ มาช่วยกันเก็บความทรงจำที่ดีร่วมกันดีกว่าครับ

25.สุด ท้ายที่ขาด ไม่ได้คือ...หัวใจที่รักและเข้าใจธรรมชาติ เนื่องจากอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสุรินทร์อยู่ห่างไกลจากแผ่นดินใหญ่มาก ดังนั้น..สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ
จึงมีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวในระดับหนึ่งเท่านั้นครับ และหมู่เกาะสุรินทร์จะยังคงความสวยงามต่อไป หากพวกเราปฏิบัติตามกฏเกณฑ์แห่งท้องทะเลครับ

22 มิถุนายน 2553

ท่องเที่ยวไทยไปเที่ยวกระบี่



เมืองไทย.คอม ขอหลบอากาศร้อนๆ จากกรุงเทพ หนีลงทะเลใต้จังหวัดกระบี่กันซักหน่อย เราเดินทางมุ่งหน้าสู่ จ.กระบี่ โดยใช้เส้นทาง จากกรุงเทพฯ ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรี-ประจวบคีรีขันธ์-ชุมพร-สุราษฎร์ธานี-กระบี่








วัน แรกของการเดินทาง
ลง จ.กระบี่ ครั้งนี้ เราจัด Trip ที่ท่องธรรมชาติอันสวยงามหลายที่เลยทีเดียว เริ่มต้นภารกิจแห่งความสุขวัน แรก หลังจากอยู่ในเมืองกระบี่ พักผ่อนพอสบายหายเหนื่อยจากการเดินทางมาแล้ว เช้านี้ เราจึงออกจากตัวเมืองไปยัง อำเภอคลองท่อม ด้วยการพาไป ” น้ำตกร้อน ” ซึ่งเป็นหนึ่งใน Unseen ของจังหวัดกระบี่ ระหว่างทางแวดล้อมไปด้วยสวนยางพารา และสวนปาล์ม ก่อนเข้าสู่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เขาปะบางคราม อ. คลองท่อม ค่าบริการผ่านทาง คนละ20 บาท
” น้ำตกร้อน “นี้เกิดจากน้ำร้อนใต้ดินที่ผุดขึ้นกลางป่า สายน้ำไหลผ่านป่าระกำลงสู่เบื้องล่าง ลำคลองสะพานยูง บางช่วงมีควันกรุ่นและคราบหินปูนธรรมชาติพอกอยู่เป็นชั้นหนาทำให้เกิด ทัศนียภาพสวยงามแปลกตา โดยเฉพาะบริเวณที่ธารน้ำร้อนไหลลงสู่คลองท่อมลดระดับเกิดเป็นลักษณะคล้าย ชั้นน้ำตกเล็ก ๆ คุณจะเล่นน้ำตกร้อน ที่มีอุณหภูมิประมาณ 40 องศาเซลเซียส หรือจะอาบน้ำแร่อุ่นๆแบบสปาธรรมชาติก็ได้ เราประทับกับธรรมชาติที่นี่เป็นอย่างมาก

เดิน ทางต่อไปยังสระน้ำใสสะอาด ขนาดใหญ่ในอ้อมกอดของป่าดงพงไพร กว้างประมาณ 25 ม. ยาว 20 ม. และลึกประมาณ 2 ม. น้ำใสจนมองเห็นพื้นหินด้านล่าง ซึ่งมีสีเขียวมรกต อันเป็นที่มาของชื่อ “สระมรกต” ค่าบริการผ่านทาง คนละ20 บาท แต่ก่อนที่เราจะได้ชมความงามนั่น เราต้องเดินเข้าไป ประมาณ 800 เมตร หรือจะเลือกเส้นทางเดินเพื่อศึกษาธรรมชาติที่มีระยะการเดินประมาณ 2.7 กิโลเมตร แต่ก็จะมาบรรจบกันที่สระมรกตที่เดียวกัน ตลอดเส้นทางเดินธรรมชาติเป็นป่าร่มรื่นเขียวชอุ่ม ร่มรื่นด้วยพรรณไม้ที่น่าสนใจเป็นแหล่งชมนกหายากก่อนถึงสระมรกตก็จะพบกับ สระแก้ว น้ำใสสีเขียวมรกตเต็มไปด้วยพืชน้ำที่ขึ้นกันอย่างหนาแน่น




เช้า วันที่สอง ถึงคิวพาเที่ยวทะเล วันนี้จะพาไปดำน้ำชมสิ่งมหัศจรรย์ใต้น้ำว่างดงามเพียงใด ซึ่งได้รับเกียรติจาก คุณเหม ผู้บริหารเรือเพชรไพลิน ของบริษัทลันตา เพชรไพลิน จำกัด เป็นเรือสองชั้น ชั้นบนจะเป็นชั้นลอยสำหรับนั่งอาบแดดหรือชมวิวในมุมกว้าง เรือเพชรไพลินให้บริการเรือนำเที่ยวหมู่เกาะต่างๆ ภายใน 1 วัน ด้วยโปรแกรม “4 Islands one day trip” เรือออกประมาณ 9 โมง พาไปดำน้ำดูปะการัง
จุดแรกคือ “เกาะเชือก” ชมปะการังเจ็ดสี หนึ่งเดียวในท้องทะเลตรัง หลังจากเราเต็มอิ่มกับความงามของประการัง ปลาและโลกใต้ทะเลที่เกาะเชื่อกแล้ว ก็ไปต่อที่ “เกาะมุข” เพื่อแวะทานข้าวกลางวัน เติมพลังแล้วก็ลุยกันต่อที่ “เกาะม้า” ชมปะการังอ่อน หลายๆ ชนิดที่สมบูรณ์ น้ำใส สามารถเห็นปลาการ์ตูน ปลาลายเสือมากมาย และที่เกาะม้านี่เองที่เราเจอ ปลาไหลมอลเลย์ ที่หาดูได้ยาก
น่าเสียดายที่ได้แวะ “เกาะม้า” เป็นเกาะสุดท้าย ด้วยเพราะฟ้าฝนและสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ จึงอดแวะไปที “เกาะไหง” วันนี้เก็บภาพประทับใจของทิวทัศน์ธรรมชาติของทะเล ตรัง-กระบี่ อันงดงามระหว่างการท่องเที่ยวเพียงเท่านี้ก่อนแล้วกันน่ะค่ะ สามารถติดต่อ เรือเพชรไพลิน ได้ที่ โทร/แฟกส์ 075-684-428, 075-667-033-4
มือถือ. 081-979-9001

16 มิถุนายน 2553

Thailand Travel Udon Thani – World’s First Bronze Age Civilization




Archaeological finds here yielded evidence of a Bronze Age civilization that flourished more than 5,000 years ago. Located 348 miles northeast of Bangkok, Udon Thani is home to Ban Chiang, a UNESCO World Heritage Site. You can enjoy the displays of prehistoric artifacts, including Ban Chiang’s highly distinctive pottery, and the open museum excavation. Spend a lazy couple of days wandering Ban Chiang village and making friends with the locals, who are skilled artisans in their own right.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ โรงเรียนอนุบาล Bangkok condo

Thailand Travel

15 มิถุนายน 2553

Thailand Travel Chiang Mai – The Gateway to the Mountainous North






Founded in 1296 by King Mengrai as a capital of the Lanna Kingdom, Chiang Mai offers a perfect blend of

history, with centuries-old temples next to the boutique hotels and colorful night markets. Located 435

miles north of Bangkok and conveniently accessed by both air and rail services, Chiang Mai always has

something to discover. Intriguing diversity among ethnic tribes coupled with breathtaking scenery makes

Chiang Mai one of Asia's most attractive destinations.

The city of Chiang Mai, pleasantly situated on the banks of the Ping River, is a treasure trove of ancient

temples, fascinating for their distinctive Lanna architectural style and rich decorative detail. On the

outskirts of the city is the famed hilltop temple of Wat Phrathat Doi Suthep. At 3,520 feet above sea level,

it is the most famous and most visible landmark with vibrant view of the city and surrounding countryside.

Trekking in the hills of the North is one of Chiang Mai’s most popular tourism activities. Popular jungle

treks last from 2 to 7 days and take trekkers through forested mountains and high valleys and meadows,

as well as visits to more remote high altitude hilltribe settlements for overnight stays. Treks commonly

feature travel by foot, sometimes by boat, elephant-back, or horse-back. For those who wish to hike to the

highest peak of Thailand which rises to 8,415 feet above sea level, Doi Inthanon National Park is a must.

And if you would like to learn more of elephant and mahout relationships, visit Elephant Conservation

Center at the nearby province of Lampang.

Visit Chiang Mai during Songkran Festival or Thai New year (April 13-15) and Yi Peng Festival or Lantern

Festival coinciding with the Loi Krathong Festival on the full-moon night of the 12th lunar month will

enhance your cultural experiences. Songkran festival features the Buddha ritual bathing and water

splashing while the Yi Peng festival features the release of the lanterns into the sky to worship the gods.

For shopping lovers, Chiang Mai is famous for its wealth of quality handicraft, both traditional and modern,

hilltribe handicrafts and antiques. Shopping routes include San Kamphaeng for cotton and silk products,

Bo Sang village for umbrellas, Wua Lai Road for silverware and Ban Thawai village for furniture and

woodcarving products. For fast and fun shopping, visit the Chiang Mai night bazaar.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์

โรงเรียนอนุบาล
Bangkok condo


Thailand Travel

14 มิถุนายน 2553

Thailand Travel Dok Krachiao Blooming Festival




The unique geographical landscape of Chaiyaphum Province in the northeast of Thailand gives rise to a range of natural attractions of exceptional beauty. Of these, the fields of pinkish-purple Siam Tulip, or "Dok Krachiao", come in to full bloom in the early part of the rainy season from June to August.

Also commonly called 'patumma', 'bua sawan' (heaven lotus), or 'bua bok' (the land lotus), the Siam Tulip is a member of the ginger genera - Curcuma or Zingiberaceae.

The unusual form, bright colour and long-lasting quality of the Siam Tulip has made it an increasingly popular choice for floral decorations. It is in high demand and is currently being cultivated in the form of cuttings or ornamental plants for local consumption as well as for export overseas, predominantly to Japan and the Netherlands.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ โรงเรียนอนุบาล Bangkok condo


Thailand Travel

08 มิถุนายน 2553

Thailand Travel Thai-Chinese Architectural Heritage

(by Steve Van Beek) It is no secret that for centuries the Chinese have been movers and shakers far beyond the bounds of their Celestial Empire. In Southeast Asia, they’ve wielded enormous economic influence, and the symbols of their power — China Towns, shrines, temples, dragons — can be found in a dozen cities, but these potent symbols are normally distinct islands within a sea of indigenous architecture and traditions.

While Thailand exhibits the same compelling evidence of Chinese presence, what sets Bangkok apart and makes for the visitor a fascinating journey of discovery is that subtle Chinese elements have also been blended into traditional Thai architecture. Like finding a Thai Buddhist temple tucked in a quiet lane behind a modern corporate glass tower, the evidence is there for the active traveller and the rewards for perseverance are a multitude of beautiful images that give an extra dimension to a visit and an insight into how Thais view themselves.

Wandering through Bangkok’s nineteenth century wat (monasteries), one becomes aware of something different from the stalwarts of Thai architecture like Wat Phra Kaeow (Temple of the Emerald Buddha).

On many temples, the pediments (the triangular end area below the roof) are covered in ceramic flowers – no roof shelters them, and the chorfa (often called the “sky tassel”), which reach into the air from the roof ends, is missing. Then there are the stone sculptures in the courtyards. These aren’t Thai historical figures, they are distinctly Chinese: generals, gods, demons, horses, pagodas, and more.

These unique temples include some of the city’s largest such as Wat Pho, Wat Suthat, Wat Chalerm Prakiet and Wat Arun, although the most notable examples — Wat Raja Oros, Wat Khruawan, Wat Nang Nong, and Wat Bangkhunthian Nai — are tucked away along canals on the Thonburi side of the river.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ ศูนย์เด็กเล็ก Real estate agency Bangkok Service apartments bangkok Thailand apartments Bangkok condo


Thailand Travel

07 มิถุนายน 2553

Thailand Travel Hua Hin Regatta 2010




At the close of the month, 30 July, sailors gather for the annual Hua Hin Regatta 2008 that will test their skills over three days of competition. The coveted trophies are the Royal Vega Rudder trophy of His Majesty the King, Super Mod National Championship trophy from HM the King, OK Dinghy National Championship trophy from HM the Queen, and Princess Cup for Optimist Championship of the late HRH Princess Galyani Vadhana.



Hua Hin is considered the traditional home for the country’s sailing community, due to HM the King’s keen interest in the sport. A Southeast Asia Games winner in the sailing category, HM the King built his own racing dinghy and helped to establish the Super Mod class and is an enthusiastic patron of sailing resulting in this annual regatta being held in his honour off the coast of Hua Hin in sight of the palace.

bangkok apartment การตลาดออนไลน์ ศูนย์เด็กเล็ก Real estate agency Bangkok Service apartments bangkok Thailand apartments Bangkok condo


Thailand Travel

02 มิถุนายน 2553

Thailand Travel International Wax Sculpture




Join the alms-giving for Asalha Puja and the Khao Phansa Buddhist ceremony. Participate in the

ceremony of welcoming His Majesty the King’s royal candle and the international candle-carving

competition from various countries, as well as taste “Pha Khao Laeng” , a local food especially prepared

for tourists.

Contact :
TAT Ubon Ratchathani Office, Tel : 66 (0) 4524 3770-1, 66 (0) 4525 0714
Ubon Ratchathani Provincial Office, Tel : 66 (0) 4525 4827


Real estate agency Bangkok Service apartments bangkok Thailand apartments Bangkok apartment Bangkok condo การตลาดออนไลน์